ผู้ที่มีปัญหาการดื่ม อาจเสี่ยงต่อการทำร้ายผู้อื่น เพราะเมาสุราหรือมีอาการทางจิตจากการใช้สุรา หรือใช้สุราร่วมกับสารเสพติดอื่น ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ที่เสี่ยงต่อการถูกผู้ดื่มทำร้าย คุณควรจัดการกับสถานการณ์ ดังนี้
1. ตรวจสอบว่ามีอาวุธอยู่กับตัวของผู้เมาสุรา หรือบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ ถ้ามี และไม่มั่นใจว่าปลอดภัย ให้โทรศัพท์เรียกตำรวจ แจ้งว่าบุคคลนั้นมีอาวุธหรือมีอาการทางจิตที่ควรรับการบำบัดรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน
2. ไม่ควรใช้กำลังในการยุติความรุนแรง เช่น การชกต่อย หรือผู้มัดผู้เมาสุรา เว้นแต่จะเป็นการกระทำไปเพื่อป้องกันตัวตามเหตุผลสมควร
3. ไม่สร้างบรรยากาศข่มขู่หรือกดดัน ทำให้ผู้เมาสุรารู้สึกสงบลง โดยการค่อยๆพูดจาด้วยเสียงเนิบ ช้า เบาๆ ไม่ยิ้มเยาะหรือหัวเราะ ไม่โต้แย้งหรือท้าทาย ใช้คำพูดเชิงบวกแทนคำพูดเชิงลบ กรณีถ้าพูดคุยแล้วไม่สงบ ควรยุติการสนทนา เพื่อทำให้ความรู้สึกของผู้เมาสุรารู้สึกสงบนิ่งแทน
4. ไม่ควรทำสิ่งใดที่เป็นการเบี่ยงแบนความสนใจ เช่น การเปิดทีวี หรือเปิดวิทยุ เป็นต้น
5. ไม่เข้าไปใกล้บุคคลนั้นมากเกินไป เพราะการเข้าใกล้อาจจะทำให้บุคคลผู้นั้นรู้สึกถูกคุกคาม และเข้าจู่โจมอย่างไม่คาดคิด ซึ่งจะเป็นอันตรายได้ ดังนั้นควรให้มีระยะห่าง หลีกเลี่ยงการจ้องตาหรือการมองตาอย่างต่อเนื่อง และหลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสบุคคลนั้นในระยะประชิด
6. พยายามบอกให้นั่งลง เมื่อบุคคลนั้นนั่งลงจะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและไม่จู่โจมอย่างดุเดือด จะเป็นการดี ถ้าหากนั่งทั้งสองฝ่าย โดยนั่งหันข้างดีกว่านั่งหันหน้าเข้าหากันหรือนั่งเผชิญหน้ากัน ถ้าบุคคลนั้นนั่งแต่ผู้ช่วยเหลือกลับยืน เขาจะรู้สึกว่าถูกคุกคามหรือคิดว่าผู้ช่วยเหลือถือไพ่เหนือกว่า ผู้ช่วยเหลืออาจให้หรือแลกเปลี่ยนบางอย่างเพื่อสร้างความไว้วางใจ เช่น ส่งน้ำ ชา/กาแฟ หรือบุหรี่ให้
7. ไม่พยายามชี้แจงเหตุผลกับผู้ที่มีอาการก้าวร้าว พยายามไม่ทำให้เกิดความรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิดเพิ่มขึ้น ไม่ควรพูดจาข่มขู่ ตำหนิ หรือตะโกนใส่หน้าที่จะทำให้บุคคลนั้นรู้สึกโกรธและควบคุมตนเองไม่ได้ เนื่องจากตัวเขาเองมีความตื่นตระหนกจากความหลงผิด จากภาพหลอนหรือเสียงแว่วที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งเป็นลักษณะอาการของผู้ที่มีอาการขาดสุราหรือติดสุรารุนแรง
8. แสดงความเห็นใจต่อความไม่สบายใจ สิ่งที่สำคัญคือผู้ช่วยเหลือจะต้องไม่แสร้งทำว่าอาการหลงผิดหรือเสียงแว่วนั้นเป็นจริงๆ หรือขัดแย้งโต้เถียงว่าไม่ใช่เรื่องจริง
9. หากรู้ตัวว่าไม่ปลอดภัย และอาจถูกทำร้ายร่างกาย ขอให้ออกจากตรงนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เนื่องจากผู้ดื่มมีอาการเมาขาดสติ ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เพราะฤทธิ์ของเหล้าไปกดสมอง ทำให้เกิดความจำเสื่อมชั่วขณะหรือภาพตัด (จำเหตุการณ์ขณะเมาไม่ได้) ให้หนีเอาตัวรอดก่อน แล้วสร่างเมาค่อยมาพูดคุยกัน ถ้าเป็นไปได้ให้อัดคลิปวิดีโอขณะที่เขาเมา แต่เราต้องไม่เอาตัวเองไปเสี่ยง พอสร่างเมาเมื่อไหร่ ค่อยเปิดให้ดูแบบเชือดนิ่มๆ ไม่ด่าว่าเพราะหลักฐานชัดเจนเรียกว่าจำนนต่อหลักฐาน แบบนี้จะเถียงไม่ขึ้น อย่าทำให้เขากลัวแต่ทำให้เขารู้สึกผิดและละอายใจ ขอให้ใช้วิกฤต เป็นโอกาส ในการทำให้เขารู้สึกตัวโดยมองเห็นตนเอง โดยที่เราไม่กล่าวหา แต่จำนนต่อหลักฐาน แบบนี้ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและพฤติกรรม ที่สำคัญคือ ญาติไม่ถูกทำร้ายและได้หาทางออกร่วมกัน
10. หลีกเลี่ยงไม่ให้บุคคลนั้นเข้าใกล้เครื่องยนต์กลไกหรือขับขี่ยานพาหนะ บอกว่าจะเป็นอันตรายต่อทั้งตัวเขาและผู้อื่น
11. หากผู้ดื่มได้กระทำการทำร้ายร่างกาย ควรโทรแจ้งตำรวจ หรือหน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ให้มารับตัวผู้ดื่มไปสถานพยาบาล เพื่อทำการบำบัดรักษาต่อไป
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413 ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์
อ้างอิง
เบญจพร ปัญญายง. (2553). คู่มือการปฐมพยาบาลผู้ที่มีปัญหาจากการดื่มสุรา. เชียงใหม่: พิมพ์เดือนดี.
ศูนย์ปรึกษาเพื่อการเลิกสุราและการเสพติด (1413 สายด่วนเลิกเหล้า) (ภายใต้คณะแพทยศาสตร์)
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่อยู่ อาคารจุฬาพัฒน์ 14
254 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
ติดต่อประสานงาน
คุณ สุชาครีย์ พิบูลธรรมศักดิ์
โทรศัพท์ : 0830872879, มือถือ : , โทรสาร : อีเมล์ : 1413alcoholhelpcenter@gmail.com, เว็บไซต์ www.1413.in.th